[:en]ประวัติความเป็นมาของเตาอบ เจาะลึกเตาอบไฟฟ้า และวิธีการดูแลรักษา[:th]ประวัติความเป็นมาของเตาอบ เจาะลึกเตาอบไฟฟ้า และวิธีการดูแลรักษา[:]

[:en]

[vc_row][vc_column][vc_column_text text_larger=”no”]จุดเริ่มต้นของเตาอบเกิดจากการก่อไฟในสมัยก่อนและมีการนั่งตากไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นต่อมาในช่วง ศตวรรษที่ 16 ได้เริ่มมีการนำปล่องไฟมาใช้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเขม่าควัน ทำให้ควันของกองไฟถูกระบายออกไปทางช่องของปล่องไฟแทน ทำให้เกิดความสะดวกขึ้นสำหรับการก่อกองไฟในบ้านเพื่อสร้างความอบอุ่นและสำหรับการทำอาหาร ต่อมาในปี 1742 มีการคิดค้นเตาอบจากไม้ขึ้นมา เตาไม้ที่มีความเก่าแก่ที่สุดคือ Stew Stove หรือ Castrol Stove ที่พัฒนาขึ้นในปี 1735 โดยนักออกแบบชาวฝรั่งเศส หลังจากนั้นเตาอบถูกพัฒนาประดิษฐ์ด้วยโลหะขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 ตัวอย่างเช่น เตาอบ Frankin stove ประดิษฐ์ด้วย Benjamin Franklin ในปี 1742 ออกแบบเฉพาะสำหรับก๊าซไอเสียหรือก๊าซร้อน ในการต่อท่อเพื่อระบายออกไปด้านนอกบ้านผ่านไปยังปล่องไฟ เตาเหล่านี้สร้างขึ้นมาสำหรับใช้ในการสร้างความอบอุ่นเป็นหลัก ในปี ค.ศ. 1834 ได้ออกแบบเตาเผาเหล็กหล่อขนาดกะทัดรัด เตาที่ใช้สำหรับในห้องครัวผลิตจากโลหะขนาดเล็ก มีประสิทธิภาพในการปรุงอาหารในเตาผิง เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการทำความร้อน นี่กลายเป็นความสำเร็จในเชิงพานชย์อย่างมากมาย ซึ่งสามารถทนต่อความร้อนของอุณภูมิร้อนจัดได้ เตาเหล่านี้ถูกพัฒนาเพื่อเป็นเครื่องใช้ในการทำอาหารพิเศษ ซึ่งยังคงมีท่อเพื่อปล่อยควันเชื่อมต่อกับปล่องไฟซึ่งเป็นต้นแบบของเครื่องทำน้ำร้อน ต่อมาในปี ค.ศ. 1920 ได้มีการคิดค้นเตาแก๊สขึ้น เนื่องจากมึความกังวลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศขึ้น อีกทั้งยังมีการตัดไม้ทำลายป่าอีกด้วย จึงมีการลดการใช้เตาถ่านหินลดลง แก๊สกลายเป็นแหล่งความร้อนทดแทนสำหรับการใช้ เตาอบระบบใช้แก๊สมีขนาดที่เล็กลงมากและมีน้ำหนักที่ลดลงมากอีกด้วย เตาอบแก๊สได้ประดิษฐ์และมีการจดสิทธิบัตรเตาแก๊สขึ้นในปี 1920 และได้มีการนำมาใช้ในห้องครัวแทบทุกครัวเรือน ต่อมามีการคิดค้นเตาอบไฟฟ้าขึ้นในปี ค.ศ. 1912 เป็นเตาอบไฟฟ้าของบริษัท Copeman Electric Stove มีจำนวนการใช้ที่เพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันการใช้งานกับเตาอบแก๊สแบบดั้งเดิม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้มีการพัฒนาห้องครัวทีทันสมัยมากขึ้นความเจริญรุ่งเรืองของที่อยู่อาศัยได้มีการเร่งพัฒนามากขึ้น มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเทคโนโลยีห้องครัว ด้วยปัจจุยต่างๆ ทั้งความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ความสนใจในการทำอาหารในบ้าน ทำแข่งขันในการประดิษฐ์เครื่องครัว ใน ค.ศ. 1960 และ 1970 นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของครัวยุคใหม่เลยทีเดียว จนถึงปัจจุบันห้องครัวมีความก้าวล้ำในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีทุกๆห้องครัวมักขาดเตาอบไม่ได้เลยและในปัจจุบันยังดัดเเปลงเตาไมโครเวฟเพื่อใช้ในการอบอาหารซึ่งสามารถทำได้รวดเร็ว

เจาะลึกประเภทของเตาอบไฟฟ้า
1.เตาอบธรรมดา (Convention Oven) โดยปกติแล้วเตาอบแบบธรรมดามีวิธีการให้ความร้อน 2 วิธี คือการส่งความร้อนจากด้านบน และส่งความร้อนจากด้านล่าง การอบอาหารจะต้องคำนึงถึง
การทำงานของส่วนนี้เพราะว่าอาหารนั้นจะสุกไม่เท่ากัน ในเวลาเท่ากันนั้น
2.เตาอบแบบพัดลม (Fan Oven, Convection oven) เตาอบชนิดนี้นอกจากระบบความร้อนด้านบนและด้านล่างแล้วจะมีส่วนของภายในเตาอบ พัดลมนี้จะทำหน้าที่กระจายความร้อน
ภายในเตาให้ทั่วถึงขึ้นจากแบบเตาอบธรรมดา ทำให้อาหารนั้นสามารถสุกทั่วถึงกันและสุกเร็วขึ้น
3.เตาอบแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi Function ovens) มีตัวนำความร้อนทั้งด้านบนและด้านล่างเหมือนกับเตาอบธรรมดา พร้อมกับมีพัดลมเหมือนกันกับเตาอบแบบพัดลม เตาอบประเภทนี้มี
มัลติฟังก์ชั่น สามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลายแบบเพื่อเหมาะกับการใช้งาน

วิธีการทำความสะอาดและดูแลรักษาเตาอบ
1.นำเบกกิ้งโซดา ผสมน้ำนำไปชุปเตาอบ สามารถปล่อยไว้ทิ้งใน 1 คืน เพื่อมาทำความสะอาดในอีกวันหนึ่ง
2.ใช้แปรงขัดทำความสะอาด หรือใช้ผ้าชูปน้ำเช็ดได้เลยหากไม่มีคราบฝังเเน่น
3.นำผ้าชุปน้ำสะอาดมาเช็ดให้ทั่ว และสามารถปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งได้เลย

เทคนิคการดูแลเตาอบ
1.หลังจากการใช้งานของเตาอบ ทำการปิดแก๊สให้สนิท หากเป็นเตาไฟฟ้าก็ควรดึงปลั๊กออกทุกครั้ง
2.หลังจากใช้งานเสร็จควรเปิดประตูเตาอบเพื่อระบายความร้อน จนอุณหภูมิเป็นปกติ
3.หลังการใช้งานควรนำผ้าสะอาดมาเช็ดคราบสกปรกทุกครั้ง จะได้ไม่สะสมจนเป็นคราบฝังแน่น จะได้ไม่ทำความสะอาดยากขึ้น เช็ดทำความสะอาดหลังจากใช้งานเสร็จไม่นานจะทำให้สามารถ
ทำความสะอาดได้เร็วขึ้น
4.อย่าละเลยการเช็ดทำความสะอาด หน้าเตาอบทุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อให้มองเห็นอาหารภายในเตาในการทำอาหารครั้งต่อไป

ข้อดีของเตาอบไฟฟ้า
1.เตาอบไฟฟ้าถูกพัฒนาจนทันสมัยการใช้งานทำได้ง่าย การเริ่มการทำงานแค่หมุน หรือ แค่ฟังก์ชั่นการสัมผัสก็พอแล้ว
2.มีการออกแบบที่หลากหลาย มากดีไซน์ มีการแข่งขันทางการตลาดที่สูง ผู้ผลิตต่างออกแบบ ผลิตแบรนด์ต่างๆ ออกมาอย่างหลายรูปแบบทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
3.ฟังก์ชั่นพิเศษสำหรับการทำความสะอาดที่ง่าย เตาอบไฟฟ้ามักจะมีดีไซน์ที่ทันสมัย อุปกรณ์ถอดล้างต่างๆ ขดลวดต่างๆสามารถทำความสะอาดได้ไม่ยาก
4.มีความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เตาอบไฟฟ้านั้นไม่มีการก่อประกายไฟเมื่อใช้เตา จึงทำให้มีความปลอดภัยกว่ามาก เตาอบไฟฟ้ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ทำงานทันทีหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
5.ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อความยืดหยุ่นและประหยัดเวลาในการทำเมนูอาหารในรูปแบบต่างๆ

ข้อเสียของเตาอบไฟฟ้า
1.ไม่สามารถใช้เตาได้เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยไฟฟ้าดับ หากกำลังทำอาหารอยู่เเละเกิดไฟดับก็คงต้องทิ้งไว้ค้างเติ่งไปก่อน
2.ค่าไฟที่ใช้ในการทำอาหารนั้นต้องจ่ายเเพงกว่าค่าแก๊ส
3.อะไหล่ราคาแพง หากใช้งานไปนานและเกิดกานเสียหายขึ้นบางส่วนอะไหล่นั้นค่อนข้างหายากเลยทีเดียว

ข้อดีของเตาอบแก๊ส
1.เตานั้นสามารถเร่งความร้อนได้อย่างรวดเร็ว สามารถจุดไฟพรึ่บเดียวด้วยระบบแก๊ส สามารถควบคุมอุณหภูมิไฟได้ง่าย
2.ราคาแก๊สถูกกว่าราคาไฟฟ้าต่อหน่วย การใช้เตาอบแก๊สค่อนข้างให้ความคุ้มค่าเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้ไปในระยะเวลานาน
3.อุณหภูมิสูงกว่า เตาอบไฟฟ้านั้นมีอุณหภูมิที่จำกัด ขึ้นอยู่กับกำลังไฟและขนาดวัตต์ แตกต่างจากเตาอบแก๊สที่สามารถเร่งความร้อนได้สุด
4.ควบคุมคุณภาพของอาหารได้ดีกว่า การควบคุมไฟที่ง่ายกว่าของ เตาอบแก๊สนั้นส่งผลต่อคุณภาพอาหารเพราะสามารถกำหนดความร้อนได้แม่นยำกว่า
5.ดูแลง่ายกว่า คุ้มค่ากว่า เตาอบแก๊สนั้นจะมีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่า แต่การดูแลน้อย แน่นอนว่าทุนเรื่องของพลังงานจะทำให้คุ้มกว่าเมื่อเทียบกับเตาอบไฟฟ้า

ข้อเสียของเตาอบแก๊ส
1.ราคาของตัวเตานั้นมีราคาเเพงกว่า เนื่องจากเตบอบไฟฟ้านั้นมีการแข่งขันในตลาดสูงกว่า จึงทำให้กลไกราคานั้นถูกลง
2.เตาอบแก๊สยังดีไซน์รูปแบบเดิมๆ จึงทำให้ไม่มีความแปลกใหม่ในเรื่องของการดีไซน์
3.ทำความสะอาดยาก ไม่สามารถถอดชิ้นส่วนออกมาเพื่อทำความสะอาดได้
4.กังวลกับการรั่วไหลของแกีส เมื่อมีการใช้งานไปนานๆ แก๊สอาจมีการรั่วซึมจากการใช้งาน บางครั้งอาจเผาไหม้ไม่หมดจึงต้องคำนึงถึงสถานที่ในการจัดเก็บด้วย บริเวรในการ
การจัดเก็บนั้นจำเป็นจะต้องมีอากาศที่ถ่ายสะดวก[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/4″][/vc_column][vc_column width=”1/4″ css=”.vc_custom_1641805803251{background-color: #e26234 !important;}” mobile_bg_img_hidden=”no” tablet_bg_img_hidden=”no” woodmart_parallax=”0″ woodmart_sticky_column=”false” parallax_scroll=”no” mobile_reset_margin=”no” tablet_reset_margin=”no”][vc_single_image image=”18467″ img_size=”large” alignment=”center” parallax_scroll=”no”][vc_empty_space height=”78px” woodmart_hide_large=”0″ woodmart_hide_medium=”0″ woodmart_hide_small=”0″ woodmart_hide_extra_small=”0″][vc_btn title=”คลิกที่นี่” color=”danger” align=”center” link=”url:https%3A%2F%2Fshopee.co.th%2Fsmileequipment2020|||”][/vc_column][vc_column width=”1/4″ css=”.vc_custom_1641805817023{background-color: #38b754 !important;}” mobile_bg_img_hidden=”no” tablet_bg_img_hidden=”no” woodmart_parallax=”0″ woodmart_sticky_column=”false” parallax_scroll=”no” mobile_reset_margin=”no” tablet_reset_margin=”no”][vc_single_image image=”18468″ img_size=”large” alignment=”center” parallax_scroll=”no”][vc_empty_space height=”08px” woodmart_hide_large=”0″ woodmart_hide_medium=”0″ woodmart_hide_small=”0″ woodmart_hide_extra_small=”0″][vc_single_image image=”18470″ img_size=”large” alignment=”center” parallax_scroll=”no”][/vc_column][vc_column width=”1/4″][/vc_column][/vc_row]

[:th][vc_row][vc_column][vc_column_text text_larger=”no”]จุดเริ่มต้นของเตาอบเกิดจากการก่อไฟในสมัยก่อนและมีการนั่งตากไฟเพื่อสร้างความอบอุ่นต่อมาในช่วง ศตวรรษที่ 16 ได้เริ่มมีการนำปล่องไฟมาใช้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเขม่าควัน ทำให้ควันของกองไฟถูกระบายออกไปทางช่องของปล่องไฟแทน ทำให้เกิดความสะดวกขึ้นสำหรับการก่อกองไฟในบ้านเพื่อสร้างความอบอุ่นและสำหรับการทำอาหาร ต่อมาในปี 1742 มีการคิดค้นเตาอบจากไม้ขึ้นมา เตาไม้ที่มีความเก่าแก่ที่สุดคือ Stew Stove หรือ Castrol Stove ที่พัฒนาขึ้นในปี 1735 โดยนักออกแบบชาวฝรั่งเศส หลังจากนั้นเตาอบถูกพัฒนาประดิษฐ์ด้วยโลหะขึ้นครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 ตัวอย่างเช่น เตาอบ Frankin stove ประดิษฐ์ด้วย Benjamin Franklin ในปี 1742 ออกแบบเฉพาะสำหรับก๊าซไอเสียหรือก๊าซร้อน ในการต่อท่อเพื่อระบายออกไปด้านนอกบ้านผ่านไปยังปล่องไฟ เตาเหล่านี้สร้างขึ้นมาสำหรับใช้ในการสร้างความอบอุ่นเป็นหลัก ในปี ค.ศ. 1834 ได้ออกแบบเตาเผาเหล็กหล่อขนาดกะทัดรัด เตาที่ใช้สำหรับในห้องครัวผลิตจากโลหะขนาดเล็ก มีประสิทธิภาพในการปรุงอาหารในเตาผิง เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการทำความร้อน นี่กลายเป็นความสำเร็จในเชิงพานชย์อย่างมากมาย ซึ่งสามารถทนต่อความร้อนของอุณภูมิร้อนจัดได้ เตาเหล่านี้ถูกพัฒนาเพื่อเป็นเครื่องใช้ในการทำอาหารพิเศษ ซึ่งยังคงมีท่อเพื่อปล่อยควันเชื่อมต่อกับปล่องไฟซึ่งเป็นต้นแบบของเครื่องทำน้ำร้อน ต่อมาในปี ค.ศ. 1920 ได้มีการคิดค้นเตาแก๊สขึ้น เนื่องจากมึความกังวลเกี่ยวกับมลพิษทางอากาศขึ้น อีกทั้งยังมีการตัดไม้ทำลายป่าอีกด้วย จึงมีการลดการใช้เตาถ่านหินลดลง แก๊สกลายเป็นแหล่งความร้อนทดแทนสำหรับการใช้ เตาอบระบบใช้แก๊สมีขนาดที่เล็กลงมากและมีน้ำหนักที่ลดลงมากอีกด้วย เตาอบแก๊สได้ประดิษฐ์และมีการจดสิทธิบัตรเตาแก๊สขึ้นในปี 1920 และได้มีการนำมาใช้ในห้องครัวแทบทุกครัวเรือน ต่อมามีการคิดค้นเตาอบไฟฟ้าขึ้นในปี ค.ศ. 1912 เป็นเตาอบไฟฟ้าของบริษัท Copeman Electric Stove มีจำนวนการใช้ที่เพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันการใช้งานกับเตาอบแก๊สแบบดั้งเดิม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้มีการพัฒนาห้องครัวทีทันสมัยมากขึ้นความเจริญรุ่งเรืองของที่อยู่อาศัยได้มีการเร่งพัฒนามากขึ้น มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเทคโนโลยีห้องครัว ด้วยปัจจุยต่างๆ ทั้งความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ความสนใจในการทำอาหารในบ้าน ทำแข่งขันในการประดิษฐ์เครื่องครัว ใน ค.ศ. 1960 และ 1970 นับได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของครัวยุคใหม่เลยทีเดียว จนถึงปัจจุบันห้องครัวมีความก้าวล้ำในเรื่องของการใช้เทคโนโลยีทุกๆห้องครัวมักขาดเตาอบไม่ได้เลยและในปัจจุบันยังดัดเเปลงเตาไมโครเวฟเพื่อใช้ในการอบอาหารซึ่งสามารถทำได้รวดเร็ว

เจาะลึกประเภทของเตาอบไฟฟ้า
1.เตาอบธรรมดา (Convention Oven) โดยปกติแล้วเตาอบแบบธรรมดามีวิธีการให้ความร้อน 2 วิธี คือการส่งความร้อนจากด้านบน และส่งความร้อนจากด้านล่าง การอบอาหารจะต้องคำนึงถึง
การทำงานของส่วนนี้เพราะว่าอาหารนั้นจะสุกไม่เท่ากัน ในเวลาเท่ากันนั้น
2.เตาอบแบบพัดลม (Fan Oven, Convection oven) เตาอบชนิดนี้นอกจากระบบความร้อนด้านบนและด้านล่างแล้วจะมีส่วนของภายในเตาอบ พัดลมนี้จะทำหน้าที่กระจายความร้อน
ภายในเตาให้ทั่วถึงขึ้นจากแบบเตาอบธรรมดา ทำให้อาหารนั้นสามารถสุกทั่วถึงกันและสุกเร็วขึ้น
3.เตาอบแบบมัลติฟังก์ชั่น (Multi Function ovens) มีตัวนำความร้อนทั้งด้านบนและด้านล่างเหมือนกับเตาอบธรรมดา พร้อมกับมีพัดลมเหมือนกันกับเตาอบแบบพัดลม เตาอบประเภทนี้มี
มัลติฟังก์ชั่น สามารถตั้งค่าการใช้งานได้หลายแบบเพื่อเหมาะกับการใช้งาน

วิธีการทำความสะอาดและดูแลรักษาเตาอบ
1.นำเบกกิ้งโซดา ผสมน้ำนำไปชุปเตาอบ สามารถปล่อยไว้ทิ้งใน 1 คืน เพื่อมาทำความสะอาดในอีกวันหนึ่ง
2.ใช้แปรงขัดทำความสะอาด หรือใช้ผ้าชูปน้ำเช็ดได้เลยหากไม่มีคราบฝังเเน่น
3.นำผ้าชุปน้ำสะอาดมาเช็ดให้ทั่ว และสามารถปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งได้เลย

เทคนิคการดูแลเตาอบ
1.หลังจากการใช้งานของเตาอบ ทำการปิดแก๊สให้สนิท หากเป็นเตาไฟฟ้าก็ควรดึงปลั๊กออกทุกครั้ง
2.หลังจากใช้งานเสร็จควรเปิดประตูเตาอบเพื่อระบายความร้อน จนอุณหภูมิเป็นปกติ
3.หลังการใช้งานควรนำผ้าสะอาดมาเช็ดคราบสกปรกทุกครั้ง จะได้ไม่สะสมจนเป็นคราบฝังแน่น จะได้ไม่ทำความสะอาดยากขึ้น เช็ดทำความสะอาดหลังจากใช้งานเสร็จไม่นานจะทำให้สามารถ
ทำความสะอาดได้เร็วขึ้น
4.อย่าละเลยการเช็ดทำความสะอาด หน้าเตาอบทุกครั้งหลังการใช้งาน เพื่อให้มองเห็นอาหารภายในเตาในการทำอาหารครั้งต่อไป

ข้อดีของเตาอบไฟฟ้า
1.เตาอบไฟฟ้าถูกพัฒนาจนทันสมัยการใช้งานทำได้ง่าย การเริ่มการทำงานแค่หมุน หรือ แค่ฟังก์ชั่นการสัมผัสก็พอแล้ว
2.มีการออกแบบที่หลากหลาย มากดีไซน์ มีการแข่งขันทางการตลาดที่สูง ผู้ผลิตต่างออกแบบ ผลิตแบรนด์ต่างๆ ออกมาอย่างหลายรูปแบบทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
3.ฟังก์ชั่นพิเศษสำหรับการทำความสะอาดที่ง่าย เตาอบไฟฟ้ามักจะมีดีไซน์ที่ทันสมัย อุปกรณ์ถอดล้างต่างๆ ขดลวดต่างๆสามารถทำความสะอาดได้ไม่ยาก
4.มีความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น เตาอบไฟฟ้านั้นไม่มีการก่อประกายไฟเมื่อใช้เตา จึงทำให้มีความปลอดภัยกว่ามาก เตาอบไฟฟ้ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติ ทำงานทันทีหากมีกระแสไฟฟ้ารั่วเกิดขึ้น
5.ฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อความยืดหยุ่นและประหยัดเวลาในการทำเมนูอาหารในรูปแบบต่างๆ

ข้อเสียของเตาอบไฟฟ้า
1.ไม่สามารถใช้เตาได้เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยไฟฟ้าดับ หากกำลังทำอาหารอยู่เเละเกิดไฟดับก็คงต้องทิ้งไว้ค้างเติ่งไปก่อน
2.ค่าไฟที่ใช้ในการทำอาหารนั้นต้องจ่ายเเพงกว่าค่าแก๊ส
3.อะไหล่ราคาแพง หากใช้งานไปนานและเกิดกานเสียหายขึ้นบางส่วนอะไหล่นั้นค่อนข้างหายากเลยทีเดียว

ข้อดีของเตาอบแก๊ส
1.เตานั้นสามารถเร่งความร้อนได้อย่างรวดเร็ว สามารถจุดไฟพรึ่บเดียวด้วยระบบแก๊ส สามารถควบคุมอุณหภูมิไฟได้ง่าย
2.ราคาแก๊สถูกกว่าราคาไฟฟ้าต่อหน่วย การใช้เตาอบแก๊สค่อนข้างให้ความคุ้มค่าเรื่องของการประหยัดพลังงานเมื่อใช้ไปในระยะเวลานาน
3.อุณหภูมิสูงกว่า เตาอบไฟฟ้านั้นมีอุณหภูมิที่จำกัด ขึ้นอยู่กับกำลังไฟและขนาดวัตต์ แตกต่างจากเตาอบแก๊สที่สามารถเร่งความร้อนได้สุด
4.ควบคุมคุณภาพของอาหารได้ดีกว่า การควบคุมไฟที่ง่ายกว่าของ เตาอบแก๊สนั้นส่งผลต่อคุณภาพอาหารเพราะสามารถกำหนดความร้อนได้แม่นยำกว่า
5.ดูแลง่ายกว่า คุ้มค่ากว่า เตาอบแก๊สนั้นจะมีราคาที่ค่อนข้างแพงกว่า แต่การดูแลน้อย แน่นอนว่าทุนเรื่องของพลังงานจะทำให้คุ้มกว่าเมื่อเทียบกับเตาอบไฟฟ้า

ข้อเสียของเตาอบแก๊ส
1.ราคาของตัวเตานั้นมีราคาเเพงกว่า เนื่องจากเตบอบไฟฟ้านั้นมีการแข่งขันในตลาดสูงกว่า จึงทำให้กลไกราคานั้นถูกลง
2.เตาอบแก๊สยังดีไซน์รูปแบบเดิมๆ จึงทำให้ไม่มีความแปลกใหม่ในเรื่องของการดีไซน์
3.ทำความสะอาดยาก ไม่สามารถถอดชิ้นส่วนออกมาเพื่อทำความสะอาดได้
4.กังวลกับการรั่วไหลของแกีส เมื่อมีการใช้งานไปนานๆ แก๊สอาจมีการรั่วซึมจากการใช้งาน บางครั้งอาจเผาไหม้ไม่หมดจึงต้องคำนึงถึงสถานที่ในการจัดเก็บด้วย บริเวรในการ
การจัดเก็บนั้นจำเป็นจะต้องมีอากาศที่ถ่ายสะดวก[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row][vc_row][vc_column width=”1/4″][/vc_column][vc_column width=”1/4″ css=”.vc_custom_1641805803251{background-color: #e26234 !important;}” mobile_bg_img_hidden=”no” tablet_bg_img_hidden=”no” woodmart_parallax=”0″ woodmart_sticky_column=”false” parallax_scroll=”no” mobile_reset_margin=”no” tablet_reset_margin=”no”][vc_single_image image=”18467″ img_size=”large” alignment=”center” parallax_scroll=”no”][vc_empty_space height=”78px” woodmart_hide_large=”0″ woodmart_hide_medium=”0″ woodmart_hide_small=”0″ woodmart_hide_extra_small=”0″][vc_btn title=”คลิกที่นี่” color=”danger” align=”center” link=”url:https%3A%2F%2Fshopee.co.th%2Fsmileequipment2020|||”][/vc_column][vc_column width=”1/4″ css=”.vc_custom_1641805817023{background-color: #38b754 !important;}” mobile_bg_img_hidden=”no” tablet_bg_img_hidden=”no” woodmart_parallax=”0″ woodmart_sticky_column=”false” parallax_scroll=”no” mobile_reset_margin=”no” tablet_reset_margin=”no”][vc_single_image image=”18468″ img_size=”large” alignment=”center” parallax_scroll=”no”][vc_empty_space height=”08px” woodmart_hide_large=”0″ woodmart_hide_medium=”0″ woodmart_hide_small=”0″ woodmart_hide_extra_small=”0″][vc_single_image image=”18470″ img_size=”large” alignment=”center” parallax_scroll=”no”][/vc_column][vc_column width=”1/4″][/vc_column][/vc_row][:]